Thursday, December 20, 2012

ปัญหาโลกแตก

http://www.bild.de/news/ausland/weltuntergang/die-welt-geht-definitiv-unter-27735926.bild.html
ข่าวเล่าว่า
วันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันครบรอบการกำเนิดโลกตามปฏิทินของชาวมายาที่ล่มสลายไปประัมาณ ค.ศ. 900 ชาวมายามีความรู้ทางดาราศาสตร์ที่แม่นยำมาก รู้ว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางระบบสุริยะก่อนชาวตะวันตก และได้คำนวณว่า ทุก 25800 ปี แกนโลกจะโคจรทำมุมกับจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดครั้งต่อไปคือวันที่ 21 ธันวาคม 2012 นี่เอง ซึ่งปรากฏการณ์นี้ไม่มีผลต่อโลกอย่างมีนัยสำคัญทางดาราศาสตร์ อย่างที่คนคิดว่า อาจมีผลต่อสนามแม่เหล็กโลกจนมีผลให้โลกแตกได้
ข้อเท็จจริงอีกข้อคือ วันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นวันสิ้นสุดยุค Baktun ที่ 13 ตามปฏิทินชาวมายาที่ถูกเก็บรักษาที่เดรสเดน ประเทศเยอรมันนี ซึ่งตรงนี้ทำให้คนคิดว่าเป็นวันสิ้น โลก แต่ต่อมานักวิจัยได้พบว่า ปฏิทินชาวมายายังมียุคต่อไปคือ ยุค Baktun ที่ 14 และ 15 ซึ่งถ้าปฏิิทินชาวมายาเป็นจริง โลกจะมีอยู่ไปอย่างน้อยอีกกว่า 50000 ปี
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า โลกจะแตกแน่ แต่ไม่ใช่วันที่ 21 ธันวาคม 2012 นี้ พวกเขาเชื่อว่า อย่างช้าก็อีก 1พันล้านปี เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มหมดแสง หรืออย่างเร็วที่สุด คือ ประมาณปี 2029 หรือ 2036 ที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร จะโคจรเข้าใกล้โลก และมีโอกาสชนโลกได้ ตอนนี้องค์กรการบินอวกาศของยุโรป หรือ ESA ก็มีแผนชื่อ "ดอนกิโฮเต้" ที่มีเป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนวิถีโคจรของดาวเคราะห์้น้อยนี้ แต่แผนนี้ต้องพักไว้ก่อน เนื่องจากปัญหาด้านการเงินของสหภาพยุโรป
ส่วนว่าโลกจะแตกจริงในวันศุกร์นี้หรือไม่ อย่างที่คนเขาตื่นเต้นกัน เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเราตื่นมาดูโลกนี้ร่วมกันต่อไปได้ในวันเสาร์ :-)