from https://www.facebook.com/bobby.ralphe/posts/pfbid0ockWo7E7YyYSbrrhemvKYyfyMX4bou43LbwCXSUMc8BwiENwiu2bkBqbGeZdvTqwl
The Check List
คุณคิดว่านักวิทย์จะแก้ปัญหาประเทศเราได้หรือไม่..
ไหนๆก็มี candidate นายกเป็นนักวิทย์ละ ลองมาดูซิว่า โลกของนักวิทย์ต่างกับโลกจริงของพวกเรายังไงบ้าง เช่น
.
1. Perfection VS Progress
Lab mindset : ทำมันให้สมบูรณ์ 99% ก่อนค่อยประกาศออกไป เช็คให้ดีซัก 3 รอบ
Market mindset : ถ้าได้สัก 80% ก็เอาไปลองก่อน ค่อยๆปรับให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาจริงอยู่ในตลาด
.
2. Public VS Protect ( IP)
Lab mindset : เปิดเผยทุกอย่าง ค้นหาข้อมูลมากล่าวอ้าง ความโปร่งใสคือสิ่งที่งานวิทยาศาสตร์ต้องมี
Market mindset : เปิดเผยอย่างมีการวางแผน จดสิทธิบัตรให้มากสุด อะไรที่ลับมากไม่ต้องบอก
.
3. Peer view VS Customer validation
Lab mindset : คน 1 check คน 2 check คน 3 check
Market mindset : ลูกค้าใช้กระเป๋าเงินตัดสินใจ revenue คือคำอธิบายว่าสิ่งที่สร้างขึ้นมา work หรือไม่ work
.
4. Deep expertise VS T-shape knowledge
Lab mindset : ความเชี่ยวชาญคือความสามารถหลัก อย่างเดียวพอ
Market mindset : เราต้องมีความเข้าใจ finance - sale - operation - HR ถึงจะทำงานได้
.
5. Grant timeline VS Market emergency
Lab mindset : อดทนทำงาน ทดสอบไปเรื่อยๆ ทำให้ perfect ทุนยังมีให้ต่อ
Market mindset : รีบทำรีบขาย คู่แข่งแย่งตลาดไปเยอะแล้ว เดี๋ยวตลาดเต็มจะอดเข้า
.
6. Individual glory VS Team success
Lab mindset : วิจัยเลิศ ได้รางวัล ชื่อเราคนเดียวเป็นตำนาน คนเก่งคือเรา
Market mindset : เราต้องทำงานเป็นทีม จ้างคนที่เก่งกว่าเรามาทำงาน ความสำเร็จมาจากทุกคน
Tip : เปลี่ยนจาก 'ชั้นมีคำตอบ' เป็น 'ใครในทีมมีคำตอบเรื่องนี้บ้าง'
.
7. Technical Presentation VS Storytelling
เมื่อคุณต้องฟัง presentation จาก 2 ฝั่ง
Lab mindset : มันคือ physic quantum ที่มีส่วนประกอบของ xxyy 10 nnm.ผลิตจากเส้นใยเซลูโลส excentritual
Market mindset : เราช่วยให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยนจากธุรกิจธรรมดาไปเป็นธุรกิจที่รักษ์โลกด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ มีนักวิทยาศาสตร์ 20 คนในทีมและผลิตนวัตกรรมที่จะมีแต่คนอยากใช้
.
8. Grant VS Revenue focus
Lab mindset : ฉันจะขอทุนไปทำวิจัยเพื่อค้นพบอะไรดีน้า
Market mindset : ทำอะไรที่เราได้ตังกันเถอะ
No comments:
Post a Comment